แบบทดสอบทฤษฏีการเรียนรู้


แบบทดสอบ
ทฤษฎีการเรียนรู้ของพาฟลอฟ

 1. การเรียนรู้ มีความหมายตรงกับข้อใดมากที่สุด
 ก. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฎิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
ข. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติ
 ค. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์
ง. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับสังคม

2. ข้อใดมีผลให้เกิดการเรียนรู้เพิ่มเติม
ก. การเสริมแรงทางบวก                 ข. การเสริมแรงทางลบ
ค. พฤติกรรม                                 ง. วุฒิภาวะ

3. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ทฤษฎีการเรียนรู้ของพาฟลอฟ
ก. การเรียนรู้ของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการวางเงื่อนไข
ข. การเรียนรู้เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ค. การเรียนรู้เป็นเรื่องของประสบการณ์
 ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข

 4. ก่อนเริ่มการทดลอง พาฟลอฟได้ทำสิ่งใดเป็นอันดับแรก
ก. ผ่าตัดเปิดท่อต่อมน้ำลายที่แก้มสุนัข
ข. ผ่าตัดเปิดท่อต่อมเหงือกของสุนัข
 ค. ผ่าตัดฟันของสุนัข
ง. ผ่าตัดลิ้นของสุนัข

 5. ใครต่อไปนี้นำทฤษฎีของพาฟลอฟไปใช้ได้ถูกต้องที่สุด
 ก. ครูแดงทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี
 ข. ครูดำให้ข้อแนะนำที่ดีแก่ลูกศิษย์เมื่อท้อต่อการเรียน
ค. ครูขาวตระหนักอยู่เสมอว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่สามรถสร้างความรู้สึก อารมณ์กลัว ความวิตกกังวลใน ตัวผู้เรียนได้
ง. ถูกทุกข้อ

6. ข้อใดเป็นผลการทดลองที่ถูกต้องของ พาฟลอฟ
ก. UCS = UCR
ข. UCS + UCR = CS
 ค. CS + CR = UCR
ง. UCS + CS = UCR

 7. การวางเงื่อนไขจะเกิดผลดี ได้เมื่อใด
ก. ผู้ทดลองเร้าผู้ถูกทดลองด้วยสิ่งเร้าไม่มีเงื่อนไขเสียก่อน แล้วจึงตามด้วยสิ่งเร้าที่มีเงื่อนไข
ข. ระยะเวลาที่จะเร้าสิ่งเร้าไม่มีเงื่อนไขและสิ่งเร้าที่มีเงื่อนไขนั้น จะต้องไม่มากเกินไป และไม่เร็วเกินไป
ค. ต้องอยู่ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม
 ง. ถูกทุกข้อ


 8. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขของ Pavlov สามารถนำไปใช้ในการจัดการศึกษาและการเรียนการสอน ได้ดังนี้ ยกเว้นข้อใด
 ก. การจัดกระบวนการเรียนการสอนแบบการใช้บทเรียนโปรแกรม
ข. การสอนโดยเน้นสติปัญญาเป็นสำคัญ
 ค. การใช้พฤติกรรมบำบัด
ง. การเสริมแรงทันทีทันใด

9. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิด
 ก. สิ่งเร้าที่เป็นกลาง คือ สิ่งเร้าที่ก่อให้เกิดการตอบสนอง
ข. สิ่งเร้าที่ไม่ได้วางเงื่อนไข คือ สิ่งเร้าที่ทำให้เกิดการตอบสนองได้ตามธรรมชาติ
ค. สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข คือ สิ่งเร้าที่ทำให้เกิดการตอบสนองได้หลังจากถูกวางเงื่อนไขแล้ว
ง. การตอบสนองที่ไม่ได้ถูกวางเงื่อนไข คือการตอบสนองที่เกิดขึ้น

10. ทฤษฎีการเรียนรู้ของพาฟลอฟ ข้อใดที่กล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ในการสอน
ก. ผู้สอนสามารถใช้หลักการเรียนรู้ของทฤษฎี ทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้เรียนที่แสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก ทั้งด้านดีและไม่ดี
ข. ผู้สอนควรตระหนักเอาไว้ว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่สามารถสร้างความรู้สึก อารมณ์กลัว ความวิตกกังวลในตัวผู้เรียนได้
ค. ผู้สอนควรตั้งจุดมุ่งหมายที่ผู้เรียนสามารถเข้าใจได้ดี

ง. ผู้สอนควรป้องกันมิให้ผู้เรียนพบแต่ความล้มเหลว



แบบทดสอบ
ทฤษฎีการเรีนยรู้ของวัตสัน

คำชี้แจง ให้นักศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้ โดยเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1.จากการทดลองของวัตสัน ที่ได้กล่าวมา….. เพราะอะไรเด็กคนนั้น ถึงได้กลัวหนูขาว
ก. เพราะสิ่งเร้าที่ได้รับ
ข. เพราะกลัวหนูกัด
ค. เพราะเกิดจากอารมณ์ความกลัว
ง. เพราะเคยถูกหนูกัด

2.ตัวอย่าง ผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนที่ติดบุหรี่ มานานกว่า 01 ปี ถ้ำตามทฤษฏีของวัตสัน ผู้ชายคนนี้สามารถเลิกบุหรี่ได้ไหม
ก. สามารถเลิกได้
ข. ไม่มีทางเลิกได้
ค. อาจเลิกได้
ง. เลิกได้ แต่จะต้อหำกิจกรรมอื่นมาทดแทน

3.พฤติกรรมของมนุษย์ที่คน ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้ โดยจะต้องมีเงื่อนไขอะไร
ก. ควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข
ข. ควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
ค. ควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขและที่เกิดจากธรรมชาติ
ง. ควบคุมที่สิ่งเร้าที่เกิดจากธรรมชำติและทำให้สิ่งเร้าสัมพันธ์กัน

4.ทุกๆพฤติกรรมของมนุษย์ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ……….
ก. มีการกระตุ้น
ข. มีสิ่งเร้า
ค. มีความรู้สึก
ง. ข้อ ก กับ ข ถูกทั้งสอง

5.เราควรทำอย่างไรเพื่อให้พฤติกรรมของใครคนหนึ่งหายไป
ก. พยายามพูดคุยกับเขา
ข. พยายามหาอะไรให้เขาทำ
ค. พยายามเปลี่ยนพฤติกรรมของเขา
ง. พยายามกระตุ้นเขา

6.เมื่อครูอยากให้นักเรียนทำ อะไรสักอย่างหนึ่ง ครูควรทำ อย่างไร
ก. พูดคุยกับนักเรียน
ข. สั่งนักเรียน
ค. ตะโกนใส่นักเรียนให้ทำ
ง. รอ ให้นักเรียนทำ

7.การเรียนรู้ของเรา จะคงทนถาวร เมื่อมีการทำ ให้สิ่งเร้า
ก. มากกว่าที่เป็นอยู่
ข. น้อยกว่าที่เป็นอยู่
ค. คงทนถาวรและสม่ำเสมอ
ง. คงทนตลอดไป

8.การที่ครูใช้มาตรการการลงโทษนักเรียนที่ทำ ผิด เป็นการจัดพฤติกรรมวางเงื่อนไขหรือไม่
ก. ไม่เป็นเลย
ข. เป็น
ค. เป็นครึ่งหนึ่ง ไม่เป็นครึ่งหนึ่ง
ง. ไม่มีข้อใดถูก


9.ในความแตกต่างของแต่ละคน ความแตกต่างทางด้านจะมีแบบแผนเท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. เท่ากัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์
ข. เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพบุคคล
ค. ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์
ง. ไม่เท่ากัน ขึ้นยู่กับสภาพบุคคล

10. ในศตวรรษที่ 10 ความแตกต่างระหว่างบุคคล มีแนวโน้มที่จะเกิดความแตกต่างที่เพิ่มมากขึ้นหรือลดลง อย่างไร
ก. น้อยลง เพราะต่างก็มีการศึกษามากขึ้น
ข. เพิ่มขึ้น เพราะความแตกต่างทางสังคมเพิ่มขึ้น
ค. เพิ่มขึ้น เพราะเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น
ง. น้อยลง เพราะเป็นสังคมแห่งความรู้


                                                                    แบบทดสอบ
ทฤษฏีการเรียนรู้ของสกินเนอร์

1.ข้อใดเป็นการลงโทษ (การเสริมแรงทางลบ) ตามทฤษฏีของสกินเนอร์
ก.ครูไม่พอใจพฤติกรรมของแก้วตา
ข.แก้วตาถูกเรียกไปพบฝ่ายปกครอง
ค.ครูชมแก้วตาที่ใจเรียน
ง.ครูตำหนิแก้วตาไม่ตั้งใจเรียน

2.จากการทดลองข้อใดเป็นการเสริมแรงของหนู
ก.อาหาร
ข.ความหิว
ค.พฤติกรรม
ง.การเรียนรู้

ใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 3 – 6
ก.การเสริมแรงทางบวก
ข.การเสริมแรงทางลบ
ค.การลงโทษแรงทางบวก
ง.การลงโทษแรงทางลบ

3. การทำให้สิ่งเสริมแรงบุคคลไม่พึงพอใจที่เกิดขึ้น
4 .สิ่งร้าวให้บุคคลไม่พึงพอใจ ทำให้บุคคลนั้นแสดงพฤติกรรมลดลง
5.การทำให้สิ่งเสริมแรงบุคคลพึงพอใจแสดงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น
6.สิ่งร้าวให้บุคคลพึงพอใจ ทำให้บุคคลนั้นแสดงพฤติกรรมลดลง

7.ข้อใดเป็นการเสริมแรงที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียน
ก.การให้คะแนน
ข.การกระทำ
ค.การให้รางวัล
ง.คำพูด

8. ตัวเสริมแรงที่เกิดจากการวางเงื่อนไขเขาเรียกว่าอะไร
ก.ตัวเสริมแรงปฐมภูมิ
ข.ตัวเสริมแรงทุติยภูมิ
ค.ตัวเสริมแรงปกว้างขวาง
ง.ตัวเสริมแรงแผ่ขยาย

9.นารีลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วยวิธี หยุดการเสริมแรงและการพักชั่วคราวถ้าใช้รวมกับวิธีอื่นมีประสิทธิภาพอย่างไร
ก.การสริมแรงทางบวก
ข.การสริมแรงทางลบ
ค.การสริมแรงทางบวกและการสริมแรงทางลบ
ง.ถูกทุกข้อ

10.ในการเรียนรู้และการวัดในทัศนะของสกินเนอร์ได้ให้ความหมายของการเรียนรู้ ว่าอย่างไร
ก.การเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุด
ข.การปรับปรุงของพฤติกรรม
ค.การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ง.การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม


แบบทดสอบ
ทฤษฏีการเรียนรู้ของธรอนไดด์

1.ทฤษฏีของธรอนไดด์เน้นในเรื่องใด ?
ก.เน้นปฏิสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง
ข.เน้นปฏิสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับสิ่งแวดล้อม
ค.เน้นปฏิสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับส่งแวดล้อมกับการตอบสนอง
ง.เน้นปฏิสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับกับสิ่งเร้า

2.จากการทดลองของธรอนไดด์โดยการนำแมวที่หิวใส่ไว้ในกรง แล้วนำปลาย่างมาล่อใกล้ๆกรง แล้วแมวตัวนั้นสามารถเปิดประตูโดยการกดคานไม้อย่างบังเอิญ อยากทราบว่า การที่แมวสามารถเปิดประตูได้นั้นเป็นการตอบสนองในรูปแบบใด ?
ก.การตอบสนองแบบเดาสุ่ม
ข.การตอบสนองแบบลองผิดลองถูก
ค.การตอบสนองแบบตั้งใจ
ง.ก และ ข ถูกต้อง

3.กฎการเรียนรู้ของธรอนไดด์แบ่งออกเป็น 3 กฎด้วยกัน ได้แก่อะไรบ้าง ?
ก.กฎความพอใจ กฎการฝึกหัด กฎการทดลอง
ข.กฎความพร้อม กฎความพอใจ กฎการฝึกหัด
ค.กฎการฝึกหัด กฎการทดลอง กฎความพร้อม
ง.ผิดทุกข้อ


4.การที่เราเรียนรู้หรือจำได้โดยการได้กระทำหรือได้ใช้ และจะไม่เกิดการเรียนรู้หรือจะเกิดการลืมขึ้นเมื่อไม่ได้กระทำหรือไม่ได้ใช้ เป็นกฎในข้อใด ?
ก.กฎการได้ใช้
ข.กฎการไม่ได้ใช้
คกฎความเข้าใจ
ง.กฎการเรียนรู้

5.การที่พ่อแม่พาลูกมาสมัครเรียนเมื่อเขาอายุได้ สี่ ขวบ เป็นกฎการเรียนรู้ที่สำคัญตามข้อใด ?
ก.กฎความต้องการ
ข.กฎความพร้อม
ค.กฎความพอใจ
ง.กฎการเรียนรู้

6.จากการทดลองของธรอนไดร์ โดยการนำแมวที่หิวจัด มาใส่ไว้ในกรง แล้วนำปลามาวางล่อไว้ อยากทราบว่า แมวจะแสดงปฎิกิริยาหรือการตอบสนองใดเป็นลำดับ ?
ก.การที่แมววิ่งไปรอบๆ
ข.ผลักฝ่าพนังและประตู
ค.การขีดข่านพื้น
ง.ส่งเสียงฟ่อๆ และทำตัวโก่ง

7.ข้อใดกล่าวถูกต้อง ?
ก.ความพอใจ คือ ภาวะที่มนุษย์หรือสัตว์ต้องการได้รับและจะไม่พยายามหลีกหนี้
ข.ความพร้อม คือ การที่บุคคลใดพร้อมที่จะทำแล้วได้ทำ เขาย่อมเกิดความพอใจ
ค.ความพร้อม คือ วุฒิภาวะทางกาย ทางปัญญา ความรู้พื้นฐานหรือประสบการณ์เดิม และสภาพแรงจูงใจ
ง.ก และ ข ผิด

8.ข้อใดเป็นการนำทฤษฎีของธรอนไดร์มาประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน ?
ก.ครูอามีนะห์สอนโดยเปิดโอกาสให้เรียนฝึกฝนและทบทวนในสิ่งที่เรียนไปแล้ว
ข.ครูฟาตีมะห์สอนเรื่องสมการตรีโกนมิติแก่เด็กประถม
ค.ครูฮัฟเซาะห์ สอนนักเรียนโดยไม่วางจุดมุ่งหมายในการสอน
ง.ผิดทุกข้อ

9.ครู ควรให้รางวัลหรือการชมเชยเมื่อผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่ดีที่ถูกต้องออกมาเป็นจัดว่าเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของธรอนไดร์หรือไม่ ?
ก.เป็น เพราะเป็นการส่งเสริมให้เขาทำต่อไป
ข.ไม่เป็น เพราะเป็นการทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กดี
ค.เป็น เพราะเป็นฤษฎีพัฒนาการชองธรอนไดร์
ง.ผิดทุกข้อ

10.จากการทดลองของธรอนไดร์(แมว)อะไรจัดว่าเป็นสิ่งเร้า ?
ก.แมว
ข.กรง
ค.คานไม้
ง.ปลาย่าง


แบบทดสอบ
ทฤษฏีการเรียนรู้ของบันดูรา

จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1.พฤติกกรมของมนุษย์ส่วนใหญ่เกิดจากกระบวนการใดมากที่สุด
ก. เรียนรู้                           ข.สังเกตตัวแบบ
ค.การลงมือกระทำ             ง.มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคล

2.การเรียนรู้(Learning) แตกต่างกับการกระทำ(Performance)เนื่องจากสาเหตุใด
ก.มนุษย์อาจเรียนรู้ได้หลายอย่างแต่ไม่ลงมือกระทำ
ข.บุคคลอาจเรียนรู้ได้โดยผ่านจากกระบวนการสังเกต
ค.มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมจึงเกิดการเรียนรู้ที่จะกระทำ
ง.มนุษย์เกิดการจดจำอยู่ตลอดเวลาจึงเกิดการงมือกระทำ

3.การที่เด็กหญิงสุไฮนีมีบุคลิกภาพที่อ่อนโยนและมีความเมตตาเกิดจากสาเหตุใด
ก.เลียนแบบตัวแบบที่ดี
 ข.เกิดการปลูกฝังจากบุคคลรอบข้าง
ค.สิ่งแวดล้อมที่มีการกระตุ้น 
ง.สิ่งเร้าหรือการรับเข้า

4.หากต้องการส่งเสริมและพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กชายริดวานจะต้องอาศัยกระบวนการใด
ก.การแสดงละครบทบาทสมมติ
ข.การเล่าเรื่องราวโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม
ค.กระบวนการเรียนรู้ในแง่ของการเลียนแบบจากบุคคลต้นแบบ
ง.กระบวนการปลูกฝังและปฏิบัติจากบุคคลรอบข้าง

5.แนวคิดพื้นฐานของทฤษฎีแบนดูราประกอบด้วยอะไรบ้าง
ก.B,P,N           ข.B ,P ,S              ค.B, P, R              ง.B ,P, E

6.ทฤษฎีการเรียนรู้แบนดูรามีความเหมือนกับทฤษฎีพัฒนาการเพียเจ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.อามานีจะเกิดการเรียนรู้ได้โดยมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
ข.อาลีชอบช่วยเหลือและมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
ค.อัมนีมีพัฒนาการเป็นไปทางบวกเพราะเกิดการปลูกฝังของคนรอบข้าง
ง. ข้อ ก และ ข ถูก
7.รอมลีพยายามที่จะสอบได้ที่ 1 ของห้องโดยพยายามทำทุกวิถีทางเนื่องจากเหตุผลใด
ก.เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของคนในห้อง  ข.เพื่อให้ได้รับคำชมเชยจากเพื่อนฝูง
ค.เพื่อต้องการรางวัลจากคนรอบข้าง   ง.เพื่อต้องการให้รางวัลแก้ตนเอง โดยการมุ่งมั่นพยายามอีกต่อไป

8.”ฮาร์บีบชอบดูหนังต่อสู้ จากนั้นนำไปปฏิบัติกับเพื่อน จงเกิดการทะเลาะกัน" จากบทความเกิดจากสาเหตุและกระบวนการใด
ก.เกิดกระบวนการจดจำ ข.เกิดกระบวนการเลียนแบบ
ค.เกิดจากกระบวนการแสดงพฤติกรรมเหมือนต้นแบบ
ง.ถูกทุกข้อ

9.เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และยังสร้างบรรยากาศก้าวร้าวรอบๆตัว จึงทำให้เด็กที่มีพฤติกรรมอ่อนโยน และมีพฤติกรรมตอบสนองก้าวร้าวไปด้วย จากบทความเพราะสาเหตุใด
ก.เพราะเป็นการแสดงพฤติกรรมต่อสิ่งแวดล้อมที่ก้าวร้าย
ข.เพราะเกิดจากปุคลิกภายของตนเองที่มีอยู่ภายใน
ค.เพราะเกิดจากสิ่งรอบข้างมากระตุ้น
ง.ถูกทั้ง ก และ ค

10.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญในการเรียนรู้โดยการสังเกต
ก.อัมรอลตั้งใจฟังในขณะที่ครูกำลังบอกแนวข้อสอบ
ข.อามีนได้จดบันทึกแนวข้อสอบที่ครูกำลังชี้แจง
ค.ไฟศอลจ้องหน้าครูในขณะที่ครูกำลังบอกแนวข้อสอบ
ง. ข้อ ก และ ข ถูก



แบบทดสอบ
ทฤษฏีการเรียนรู้ของเกสตัลท์

1. การเรียนรู้จากการมองเห็นจะเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการพิจารณาปัญหาในภาพรวม การใช้กระบวนการทางความคิดและจะเชื่อมโยงไปถึงอะไรบ้าง
ก.    จากการเห็นและการฟัง
ข.    เชื่อมโยงประสบการณ์เดิมกับปัญหาที่กำลังเผชิญ
ค.    เชื่อมโยงกับปัญหาที่ศึกษา
ง.    เชื่อมโยงกับการปฏิบัติและทดลอง

2.การรับรู้ของ เกสตัลท์ โดยจะมีกฎแห่งการจัดระเบียบกฎข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.    กฎแห่งความคล้ายคลึง เป็นการวางหลักการรับรู้สิ่งเร้าที่ยังไม่สมบูรณ์ได้
ข.    กฎแห่งความคล้ายคลึง เป็นการวางและการเปรียบสิ่งที่คล้ายกันให้เกิดความเหมือนกัน
ค.    กฎแห่งความชัดเจน จะมีการชัดเจนในการรับรู้สิ่งนั้นในลักษณะเดิมแม้ว่าสิ่งเร้าจะเปลี่ยนไป
ง.    กฎแห่งการบิดเบือน การรับรู้ของบุคคลอาจเกิดความผิดพลาดได้หาก สิ่งเร้าไม่ต่อเนื่องกัน

3.การนำทฤษฎีของ เกสตัลท์ มาประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน
ก.    เมื่อเกิดปัญหาขึ้นผู้เรียนจะสามารถนำวิธีการการแก้ปัญหามาใช้ได้ทันที
ข.    ช่วยสนับสนุนให้ผู้เรียนให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจ
ค.    ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้เรียน
ง.    ช่วยให้ผู้เรียนค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ

4.ข้อใดอธิบายแนวความคิดของ เกสตัลท์ ได้ถูกต้อง
ก.    คำนึงถึงพัฒนาการทางสมองในแง่ของความสามารถในการกระทำสิ่งต่างๆ
ข.    การคิดด้วยการกระทำจะเป็นพัฒนาการ
ค.    การแก้ปัญหาในการเรียนได้เมื่อมีความเข้าใจในสิ่งใด
ง.    การเรียนรู้เกิดจากการจัดประสบการณ์ทั้งหลาย ที่อยู่กระจัดกระจายให้มารวมกันก่อนแล้วพิจารณาส่วนย่อยต่อไป

5. เพราะเหตุใดกลุ่ม เกสตัลท์ จึงให้ความสนใจที่จะศึกษาเรื่องการรับรู้ ประสบการณ์ การแก้ปัญหา
ก.    เพราะคนเราจะเรียนรู้จากประสบการณ์
ข.    เพราะไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์
ค.    เพราะไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีของบรูเนอร์มนุษย์เรียนรู้จากบทบาทสมมุติ
ง.    เพราะมนุษย์จะต้องเรียนรู้การแก้ปัญหา

6.การมองสถานการณ์ในแนวทางใหม่ๆ เกิดจากความเข้าใจและความรู้สึกที่มีต่อสถานการณ์อย่างไร
ก.    อามีเนาะมองปัญหาเป็นความโชคดี
ข.    อิมละเจอปัญหาแล้วทำให้สิ้นหวัง
ค.    คานีราจะมองปัญหาช่องทางการแก้ปัญหาขึ้นได้ทันทีทันได้
ง.    โนรีซันยิ้มรับและต่อสู้กับปัญหาที่ค่อยๆแก้ไปเรื่อยๆ

7.ลักษณะการรับรู้ และการเรียนรู้จากการหยั่งเห็น จะเกิดขึ้นจากอะไร
ก.    จากการทำรายงาน
ข.    จากการจิตนาการ
ค.    จากความสามารถของบุคคลนั้น
ง.    จากประสบการณ์และการเรียนรู้

8.อั้มเห็นสีแดงแล้วนึกถึงเลือดแต่ชมพู่เห็นสีแดงนึกถึงดอกกุหลาบสีแดง จากเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากสาเหตุอะไร
ก.    เกิดจากการมองเห็น
ข.    เกิดจากประสบการณ์เดิม
ค.    เกิดจากการรับรู้
ง.    เกิดจากความคล้ายคลึงกัน

9.การที่ ชารีฟจับกาต้มน้ำแล้วรู้สึกร้อน จัดอยู่ในหลักการเรียนรู้ลักษณะใด
ก.    การสัมผัส
ข.    การหยั่งเห็น
ค.    การรับรู้
ง.    ถูกทุกข้อ

10. การที่เด็กสามารถแยกไข่ไก่และไข่เป็ด แสดงถึงกฎแห่งการจัดระเบียบกฎใด
ก.    กฎแห่งความคล้ายคลึง
ข.    กฎแห่งความชัดเจน
ค.    กฎความสมบูรณ์

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น